เริ่มต้นกินบาร์ฟอย่างไร ควรให้ปริมาณเท่าไหน

สุนัขและแมว สามารถเริ่มกินบาร์ฟได้ตั้งแต่ฟันขึ้นทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าพันธุ์เล็กหรือใหญ่ หากเริ่มกินตั้งแต่เด็กก็สามารถให้ทานได้เลย
แต่หากเคยทานอาหารเม็ดหรืออาหารอื่นๆมาก่อนนั้น ในครั้งแรกที่กินบาร์ฟจะต้องทำการกินบาร์ฟอย่างเดียวประมาณ 1 อาทิตย์ โดยงดขนม อาหารเม็ด ฯลฯ ไปก่อน เพื่อที่เราจะได้สังเกตุอาการทุกอย่างได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงToppingต่างๆที่เคยเห็นตามinternetมา ทั้งโยเกิร์ต ผัก ผลไม้ น้ำมันต่างๆ รอดูท่าทีจนผ่านพ้นช่วงอาทิตย์แรกไปได้จึงให้toppingเสริมเหล่านี้ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับท้องของสุนัขและแมวให้คุ้นเคยกับอาหารดิบดั้งเดิม โดยเราสามารถเริ่มที่สูตรเริ่มกินบาร์ฟ(ไก่) หรือ สูตรเริ่มกินบาร์ฟ(เป็ด) ของOrigin Meals ได้ทันที
ในสุนัขบางตัว (โดยส่วนมากจะเป็นพันธุ์เล็ก) มักจะมีอาการถ่ายเหลวในช่วงแรกที่กินบาร์ฟ อันเป็นสาเหตุมาจากการปรับท้อง ถือเป็นอาการปกติในช่วงเริ่มแรกนี้
ปริมาณในการกินนั้นจะสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว โดยคิดเป็น%
1.5% ลดน้ำหนัก 2.0%-2.5% ปกติหรืออกกำลังกายน้อย 2.5%-3.0% สมดุล 3.5% เพิ่มน้ำหนัก 4-8% สุนัขอายุ6-12 เดือน 8-10% สุนัขอายุ1-6 เดือน
ยกตัวอย่าง หากสุนัขหนัก 22 ก.ก. และต้องการให้กินที่2.5% 22*2.5% = 550 g
นั่นคือสุนัขต้องกิน 550g ต่อวัน สามารถแบ่งเป็น 1-2 มื้อต่อวันได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของสุนัขและเจ้าของด้วย หากสุนัขมีกิจกรรมต่อวันที่มาก เราสามารถให้มากขึ้นได้ หรือหากสุนัขไม่ค่อยมีกิจกรรมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะอยู่เฉยๆในห้อง เราก็สามารถลดปริมาณอาหารลงเพื่อป้องการการอ้วน ได้เช่นกันค่ะ
หากไม่สะดวกที่จะคำนวณเอง สามารถใช้โปรแกรมที่หน้าเว็บนี้เป็นตัวช่วยในการคำนวณ http://www.raw4dogs.com/calculate.htm โดยกรอกน้ำหนักของสุนัขในช่อง weight of dog ติ๊กเลือก Kilograms และเลือก%ที่ต้องการให้
สุนัขทาน แล้วจึงกดCalculate ก็จะออกมาเป็นปริมาณอาหารที่สุนัขของเราจะต้องทานต่อ1วัน
Note: สามารถปรับลด-เพิ่ม สัดส่วนได้ หากสุนัขมีการออกกำลังกายที่มากขึ้น หรืออ้วนเกินไป สุนัขท้องสามารถให้กินบาร์ฟได้ปกติ 2-3% ต่อวัน และในช่วงสัปดาห์ที่5-8 ควรเพิ่มเป็น 3-5% ของน้ำหนักตัว/วัน